ช่วงนี้กระแสที่แรงที่สุดในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการย้ายประเทศ เราลองมาดูกันว่าจะมีประเทศไหนบ้างที่คนไทยอยากย้ายถิ่นฐานไปอยู่กันมากที่สุด!
อันดับ 1 ญี่ปุ่น
ประเทศที่นอกจากจะเป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยแล้ว ยังติดอันดับประเทศที่คนไทยอยากย้ายไปอยู่อีกด้วย ปัจจุบันมีคนไทยอยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นถึง 86,666 คน มากเป็นอันดับที่ 3 แต่มีกระทู้หนึ่งที่น่าสนใจบนสื่อออนไลน์ ว่าด้วย “3 เหตุผลที่ไม่ควรมาญี่ปุ่น” ประกอบด้วย 1. ภาษาญี่ปุ่นค่อนข้างเรียนยาก หากเทียบกับประเทศอื่นที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ 2. คนญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าทำงานหนัก แม้ว่าองค์กรสมัยใหม่จะเริ่มปรับให้มีความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตกับการทำงานมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีองค์กรที่มีคนรุ่นเก่าทำงานหามรุ่งหามค่ำ แม้จะไม่มีการบังคับแต่หากทำงานภายใต้สังคมแบบนั้นเราก็อาจจะกลายเป็นแบบนั้นได้ และ 3. เศรษฐกิจแย่ลงทุกปี ส่วนหนึ่งมาจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ข้อดีก็ยังคงมีมากกว่า ทั้งเรื่องค่าครองชีพที่ไม่สูง ผู้คนเป็นมิตร ระบบการขนส่งมวลชนที่สะดวก การให้บริการของหน่วยงานราชการที่รวดเร็วเป็นระบบ สวัสดิการต่าง ๆ จากรัฐดีเยี่ยม บ้านเมืองปลอดภัย มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด อาหารอร่อย และฝนตกน้ำไม่ท่วม ฯลฯ
อันดับ 2 ออสเตรเลีย
ฮอตฮิตไม่แพ้กันสำหรับประเทศออสเตรเลีย ประเทศที่ปัจจุบันมีคนไทยอาศัยอยู่ราวๆ 100,856 คน มากเป็นอันดับ 2 ซึ่งก็มีลักษณะคล้ายคลึงกับอเมริกาที่ต้องใช้วีซ่านักเรียน วีซ่าทำงาน วีซ่าติดตามคู่ครอง/คู่สมรส และวีซ่าสปอนเซอร์โดยนายจ้าง ฯลฯ ข้อดีของออสเตรเลีย คือ การต่อวีซ่าที่ง่าย อัตราค่าแรงขั้นต่ำสูง เป็นศูนย์กลางของโลกยุคใหม่ ขนส่งสาธารณะดี ฯลฯ ส่วนข้อเสีย คือ อัตรค่าครองชีพค่อนข้างสูง เช่น ค่าที่พักเฉลี่ยสัปดาห์ละ 130 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (3,153 บาท) ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผู้แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานในออสเตรเลียว่า อัตราค่าแรงทั่วไปของคนที่ภาษาอังกฤษยังไม่ค่อยแข็งแรง จะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 17 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (436 บาท) ต่อชั่วโมง และหากขยันต่อสัปดาห์จะอยู่ที่ 800-1,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (19,400-36,000 บาท) ประเภทงานที่เป็นที่ต้องการของตลาด คือ สายงานช่าง ซึ่งเป็นสายงานที่ยังขาดแคลนแรงงานอยู่เป็นจำนวนมาก โดยสายงานนี้นายจ้างจะให้ทดลองทำงานเลย ถ้าทำได้ก็รับเข้าทำงานทันที
อันดับ 3 แคนาดา
เคยมีคนกล่าวว่า “แคนาดาประเทศนี้อยู่ลำบาก..แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้” เพราะแคนาดาเป็นประเทศที่จ่ายภาษีกันหนักหน่วง ภาษีบ้านสูง ประกอบกับค่ารักษาพยาบาลที่แพงหูฉี่ ฉะนั้น หากใครมีเป้าหมายที่จะอยู่คนเดียว อาจจะต้องเตรียมตัวเยอะอยู่สักหน่อย และที่สำคัญคือสภาพอากาศที่แตกต่างจากประเทศไทยมากๆ ในฤดูหนาวบางเมืองมีอุณหภูมิ -10 องศา ดังนั้น คนที่ไม่ชอบอากาศหนาวอาจจะไม่อิน! แต่มีข้อดี คือ ความเท่าเทียมกันในสังคม ส่วนเรื่องอาหารการกินก็มีร้านสะดวกซื้อแบบเอเชียอยู่มากมาย บ้านเมืองมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ระบบการศึกษาที่ดีเยี่ยม และชาว LGBTQ+ สามารถแต่งงานกันได้ หรือจะรับบุตรบุญธรรมก็ยังได้ครับ
อันดับ 4 เยอรมัน
ปัจจุบันมีคนไทยอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมันมากถึง 59,130 คน ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีข้อดีมากมายเช่นกัน ทั้งระบบสวัสดิการที่ดีต่อคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะแม่และเด็ก ระบบประกันสุขภาพและบำนาญที่ดี มีความครอบคลุมและเท่าเทียม ระบบการศึกษาที่ดีมีคุณภาพ ส่วนในเรื่องของค่าแรงจะเริ่มต้นที่ประมาณ 9 ยูโร (338 บาท) ต่อชั่วโมง ส่วนข้อเสีย คือ อัตราภาษีสูงพอสมควร โดยเฉพาะคนโสดที่จะต้องโดนเยอะกว่าคนมีครอบครัว ระบบการแพทย์ที่แตกต่างจากประเทศไทย ซึ่งถ้าหากต้องการพบหมอเฉพาะทางจะต้องทำการนัดหมายไว้ก่อนล่วงหน้า ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน และที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การสื่อสารภาษาเยอรมันนั้นมีความสำคัญมาก เพราะแม้ว่าคนในประเทศเยอรมันจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แต่ก็มีพลเมืองอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลย
อันดับ 5 สหรัฐอเมริกา
ประเทศที่ได้รับความนิยมมากอีกประเทศหนึ่ง ถึงแม้จะมีปัญหาอาชญกรรมที่รุนแรง มีเหตุกราดยิงสังหารหมู่เป็นประจำ รวมถึงปัญหาความรุนแรงด้านเชื้อชาติ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดเวลา ปัจจุบันมีคนไทยอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกามากเป็นอันดับ 1 ราวๆ 488,000 คน โดยมีทั้งคนไทยที่ได้เป็นพลเมืองจากการแต่งงานกับคู่ชีวิต ยื่นสมัครลอตเตอรี่กรีนการ์ด ทำวีซ่านักเรียน วีซ่าทำงาน และวีซ่านักลงทุน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผู้แชร์ถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับจากการทำงานในหน่วยงานรัฐ เช่น การประกันสุขภาพ เงินบำเหน็จบำนาญ และสิทธิลาคลอด ฯลฯ ส่วนงานประเภทอื่นๆ ก็มีให้เลือกทำมากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นงานที่ค่อนข้างอิสระและมีความยืดหยุ่นสูง แต่ก็มีข้อเสีย คือ ในการดำเนินเรื่องขอย้ายไปอยู่อาศัยนั้น อาจต้องใช้เงินจำนวนมากอยู่พอสมควร นอกจากนี้อาจจะต้องเผชิญกับความกดดันและความเครียด ยิ่งหากเป็นเจ้าของกิจการด้วยแล้ว อาจจะต้องคำนึงถึงค่าภาษีที่ค่อนข้างสูงเพื่อแลกกับการบริการสาธารณะที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย ๆ ประเทศที่คนไทยสนใจอยากจะย้ายไปอยู่กัน เช่น นิวซีแลนด์ อังกฤษ ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และสวีเดน ฯลฯ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในทุก ๆ ประเทศก็มีข้อดีและข้อเสียที่มากน้อยแตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าหากเราสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมในแต่ละประเทศได้..เราก็สามารถใช้ชีวิตให้อยู่รอดได้อย่างสบายครับ