ตั้งแต่เกิดเรื่องฉาว spf ไม่ตรงปกในวงการกันแดดระยะหลังมานี้ ยิ่งศึกษามาก ยิ่งกังขามากว่ากันแดดแต่ละตัวที่เราลงทุนซื้อมานี่จะตรงเคลมหรือไม่ เพราะการที่ spf จะตรงปกนี้มันขึ้นกันอะไรหลายๆอย่าง ที่แม้แต่การอ่านฉลากตรวจดู filters แล้วบางทีมันก็อาจจะไม่ตรงเคลมได้เอาง่าย ๆ ซะอย่างนั้น เนื่องด้วยกันแดดโดยตัวมันเอง formulate ยากอยู่แล้วในการที่จะให้มันสร้างฟิลม์ขึ้นปกป้องผิวเป็นชั้นที่สม่ำเสมอ เปอร์เซ็นต์ของ filters ที่ใส่มาเยอะก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะ ช่วยในการสร้างฟิลม์ปกป้องผิวนั้นขึ้นมาได้
สิ่งที่ผู้บริโภคทำได้อย่างน้อย ๆ ก็คงแค่ตรวจฉลาก ดู filters ว่าเสถียรไหม spf อ้างมาเท่าไหร่ ppd อ้างมาเท่าไหร่ กันน้ำกันเหงื่อใด ๆ ไหมเหมาะกับงานที่จะเอาไปใช้ไหม และสุดท้ายคือต้องทดลองดูเองว่าเวิร์คไหม pigment ไหม และคอยตามข่าวอยู่เรื่อย ๆ กันแดดที่จะมารีวิวในวันนี้มาจากค่ายญี่ปุ่น แบรนด์ Biore หลังจากโด่งดังจากกันแดด หลอดฟ้า watery essence Aqua Rich Spf 50+ PA++++ที่โกอินเตอร์ติดตลาดกลายเป็นสินค้าสุดฮอตในกลุ่มผู้บริโภคชาวตะวันตกไปแล้ว ด้วยเนื้อสัมผัสบางเบา แถมกันน้ำ ไม่มีคราบขาว (white cast) มาคราวนี้ นางปล่อยไลน์ใหม่มาอีกตัว “Biore Uv Athlizm”
เจาะกลุ่มเพื่อกลุ่มนักกีฬาผู้ใช้งานกลางแจ้ง ทนน้ำทนเหงื่อโดยเฉพาะ เอ๊ะ แล้วอีตัวหลอดฟ้าล่ะ นางก็เม้าว่ากันน้ำอยู่หน่อ และทำตัวนี้ออกมา หมายความว่าหลอดฟ้ากันน้ำแย่กว่าไลน์นักกีฬา?? แต่เอาเถอะ แบรนด์ skincare พวกนี้ปกติก็ขยันออกใหม่ยุบยับอยู่แล้ว เอาจริง ๆ นี่ว่าสุดท้ายอาจเป็นการตลาดล้วน ๆ ด้วยซ้ำที่ต้องผลิตไลน์ออกมาเยอะ ๆ มีสูตรเยอะๆ และหาเรื่องหา story ติดป้ายขาย Athlizm ที่เห็นตอนนี้มีสองแบบ เป็นเป็นหลอดบีบสีแดง กับแบบขวดสีแดง เราได้แบบขวดมาทดลอง ที่เป็นของแถมจากการซื้อ biore aqua rich ว่าแล้วก็มาเข้าเรื่องดีกว่า Biore UV Athlizm ขวดแดงนี้ชื่อเต็ม ๆ คือ Biore UV Athlizm Skin Protect Milk SPF 50+ PA++++ เนื้อค่อนข้างเหลว alcohol สูง แต่เหมือนกันแดดที่ alcohol สูงทั่วไป เนื้อนางบางเบาในขวดมีลูกปืนอยู่เวลาใช้ก็ให้เขย่า ๆ ให้เนื้อเข้ากัน เนื้อคล้ายๆ LRP Invisible Fluid ที่ก็มีลูกปืนในขวดให้เขย่าเหมือนกัน Athlizm เนื้อมีความเป็นซิลิโคนสูง มันๆ ลื่นๆ และด้วยความบางเบานางสามารถทาได้ 1/4 ช้อนชาสำหรับหน้า และ อีก 1/4 ช้อนชาสำหรับคอสบาย ๆ โดยไม่วอก ไม่เหนอะหนะ
นางเป็น hybrid filters ที่ใช้ มี Zinc Oxide(nano) 13.1%, Ethylhexyl Methoxycinnamate 7.99%, Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate 1.6%, Titanium Dioxide, Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine 0.6% แปลง่าย ๆ คือ มี -Zinc Oxide (nano) 13.1% -oxtinoxate 7.99% -Uvinul A Plus 1.6% -Titanium Dioxide (nano) -Tinosorb S 0.6% *อ้างอิงเวป inci Filters เคมีทั้งหมดเป็นรุ่นใหม่ เสถียร และนิยมใช้กันแพร่หลายในกลุ่มกันแดดจากเอเชีย filter physical ก็เดิม ๆ zinc กะ titanium ที่เป็นนาโน ดังนั้นไม่กัน blue light แต่ใด ๆ คือนางมี white cast นิดๆ เดาว่าอาจจะมาจาก talc รึปล่าว เพราะ nano zinc ไม่น่าวอกขนาดนี้ มีน้ำหอมแต่น้อยกว่า 0.6% เพราะ list มาหลัง tinosorb s กันเสียใช้สามตัวมี BHT, Phynoxyethanol เจ้าเก่าและ methylparaben ซึ่งเป็นกันเสียยืนพื้นของเครื่องสำอางค์จากญี่ปุ่น
ทดสอบก่อนทา / หลังทา
และต้องขอแก้ข่าวให้น้องว่า paraben ในเครื่องสำอางค์นี้ ถ้าใช้ในปริมาณที่สมควรนั้นปลอดภัย ไม่ควรกลัวและรังเกียจน้องอย่างไม่มีเหตุผล paraben เป็นกันเสียที่มีงานวิจัยมีการศึกษามากมายรับรองมากที่สุดตัวนึง ถ้าเรารังเกียจน้องและไปคว้าเอากันเสียอื่น ๆ ที่งานวิจัยยังน้อยอยู่อาจจะก่อให้เกิดผลเสียได้มากกว่าตัวที่เรารู้จักมันดีอยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์นี้แม้จะใส่น้ำหอมมาน้อย แต่มันก็ยังมีกลิ่น ที่บอกไม่ถูกคล้าย ๆ กลิ่นยาฆ่าแมลง ซึ่งอาจจะเป็นกลิ่นเคมี ที่ปริมาณที่ใส่มาน้อยนิดไม่สามารถ mask กลิ่นเคมีได้ทั้งหมด หรือ อาจจะเป็นกลิ่นน้ำหอมมันไม่หอมเองก็ไม่อาจทราบได้ แต่ใด ๆ ก็คือ appriciate มากที่ใส่มาน้อยรึถ้าไม่ใส่เลยก็จะดี ความรู้สึกหลังการใช้ ต้องขอบอกเลยว่าเป็นตัวหนึ่งที่ใช้แล้วไม่แสบตา แอลกอฮอล์สูง แต่ก็ไม่รู้สึกทำให้ผิงแห้ง เนื้อมีความซิลิโคนลื่นๆ มันๆ กระนั้นลงรองพื้นต่อก็ยังรอด (เราใช้ dior back stage ถ้าเป็นตัวอื่น ก็ไม่แน่ ต้องลองดูนะ)
ทดสอบการกันน้ำ
มี white cast นิด ๆ กันน้ำกันเหงื่อ ok ออกกำลังกาย ok เวลาเหงื่อออกสังเกตมีเนี้อกันแดดขาว ๆ ละลายไปกับเหงื่อหยดติ๋ง ๆ เดาว่าเป็น zinc หรือ Talc ซึ่งมันไหลย้อยเป็นทางเปราะเสื้อผ้าเห็นเป็นรอย เรื่องกันแดดนี้ ยังสองจิตสองใจ pa4บวก นี่แปลงเป็นค่า ppd มันได้อย่างน้อย ๆ 16 ขึ้นไป (กฏหมายบังคับให้ ppd ต้องอย่างน้อย 1/3 ของค่า spf) ซึ่งถ้าเทียบกับกันแดดแบรนด์ที่กล้าบอกค่า PPD มาชัด ๆ บางแบรนด์บอกมาตรง ๆ ว่า 46 งี้เทียบกับ 16 มันก็เห็นชัดอยู่แล้วว่า 46 มันก็ดีกว่า ซึ่งส่วนตัวยังรู้สึกว่า PPD ของ Athlizm นี้ไม่น่าจะสูงเท่าไหร่ ยังไงก็ต้องอาศัยการทาซ้ำ ๆ ทุกสองชั่วโมงดีที่สุด ก็ขอจบการรีวิวไว้เท่านี้ ถ้าใครทราบว่า PPD เท่าไหร่แน่ ๆ ก็เม้นเล่าสู่กันฟังบ้างเพราะบางทีเขียนไปถามหลายแบรนด์ก็ลีลาเยอะไม่ยอมบอกซะงั้นจนนี่เลิกสนและ สู้ใช้เจ้าที่บอกเราชัดเจนดีกว่าสบายใจ