ยืนทำงาน VS นั่งทำงาน แบบไหนดีกว่ากัน ?
การเพิ่ม Productivity ในการทำงานให้สูงขึ้นนั้น ถือเป็นเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากอยู่ในขณะนี้ มีผลการวิจัยใหม่ๆ ที่น่าสนใจได้ระบุไว้ว่า การเพิ่ม Productivity นั้นเป็นเรื่องของ “รูปแบบวิธีการทำงาน” รวมไปถึงการจัดพื้นที่ทำงาน ซึ่งอาจไม่มีความเกี่ยวข้อง หรือมีความสัมพันธ์กับจำนวนชั่วโมงทำงานที่มาก หรือน้อยอีกด้วย!!!
เพราะกว่า 8-12 ชั่วโมงต่อวัน ที่เราต้องนั่งขลุกอยู่กับเก้าอี้ และโต๊ะทำงาน ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราใช้ชีวิตในแต่ละวันมากที่สุด มากกว่าบ้าน หรือเตียงนอนของเราซะอีก ดังนั้น ความพยายามในการคิดหาวิธีการทำงานเพื่อเพิ่ม Productivity จึงเริ่มขึ้น “การยืนทำงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดในกลุ่มคนทำงานบริษัทยุคใหม่ ที่มักออกแบบพื้นที่สำหรับ “ยืน” ไว้ให้กับคนทำงาน ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจที่เราพยายามจะหาคำตอบกันก็คือ การยืนทำงานนั้น..ดีกว่าการนั่งทำงานจริงหรือไม่???
3 คำถามหลักๆ ของคนที่คิดอยากจะเปลี่ยนมายืนทำงาน มีดังนี้
- ยืนทำงานแล้วงานจะเสร็จไวขึ้นไหม?
คำตอบ : แล้วแต่ประเภทงาน และวิธีการทำงาน
จากผลสำรวจในปี 2016 โดย Texas A&M Health Science Center School of Public Health ทดลองแบ่งกลุ่ม คอลเซนเตอร์ จำนวน 170 ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกใช้โต๊ะนั่งทำงาน และอีกกลุ่มหนึ่งใช้โต๊ะยืนทำงาน ตลอด 6 เดือน ผลที่ออกมา คือ กลุ่มที่ใช้โต๊ะสำหรับยืนทำงานโทรศัพท์สำเร็จมากกว่า 46% แต่จุดหนึ่งที่การวิจัยนี้ยังการันตีไม่ได้ เพราะว่ากลุ่มที่ยืนนั้น เป็นพนักงานใหม่ (พนักงานใหม่มีโอกาสขยันมากๆ แอคทีฟกว่าอยู่แล้ว) อีกทั้งกลุ่มที่ใช้โต๊ะยืนทำงาน นั่งต่างจากกลุ่มปกติแค่ 1.6 ชั่วโมงต่อวัน แถมมีหลายคนที่มีอาการปวดเท้าจากการยืนทำงานนานเกินไปตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน การยืนทำงานจึงไม่ช่วยการันตีว่าช่วยให้ Productive มากกว่าอย่างแท้จริง
- ยืนทำงานแล้วสามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม?
คำตอบ : ไม่จริง!!! ยืนทำงานเผาผลาญได้เท่าๆ กับนั่งทำงาน
Journal of Physical Activity and Health ได้ทำการสำรวจคนทำงาน 74 คน ผ่านการวัดปริมาณออกซิเจน และจำนวนแคลอรี่ พบว่า ไม่ว่าจะนั่ง หรือยืน ก็จะเผาผลาญพลังงานได้ใกล้เคียงกันที่ 80 แคลอรีต่อชั่วโมง ส่วนการเดินจะเผาผลาญพลังงานได้ 210 แคลอรีต่อชั่วโมง สรุปง่ายๆ ก็คือ ถ้ายืนทำงาน 3 ชั่วโมง เทียบกับนั่งทำงาน 3 ชั่วโมง จะเผาผลาญพลังงานต่างกันเพียงแค่ 24 แคลอรีเท่านั้น เทียบกับการเดินครึ่งชั่วโมงหลังทำงานจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าตั้ง 100 แคลอรี ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ถ้าคิดจะยืนทำงานเพื่อลดน้ำหนัก ควรเปลี่ยนเป็นหาเวลาออกมาเดินหลังอาหาร อาจเป็นวิธีการที่ง่าย และได้ประโยชน์มากกว่า
- ยืนทำงานแล้วช่วยลดอาการปวดหลังได้จริงไหม?
คำตอบ : จริง!!!
ถ้าคุณลดเวลานั่งประมาณ 1 ชั่วโมงต่อวัน ก็จะสามารถช่วยลดอาการปวดหลัง และโอกาสเกิดโรคหัวใจได้ จากผลการศึกษาโดย CDC (Center for Disease Control Prevention) พบว่า 54% ของผู้เข้าร่วมวิจัยสามารถลดอาการปวดหลัง และคอได้ เพียงแค่ลดเวลาการนั่งลง 66 นาทีต่อวัน และการศึกษาในคนขับรถบัส พบว่า ถ้าหากเพิ่มเวลาการยืน เพื่อยืดเส้นยืดสายให้มากขึ้น ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจลงได้
ดังนั้น สามารถสรุปง่ายๆ ได้ 4 ข้อ ดังนี้
- การยืนทำงานไม่ได้การันตีว่าเราจะมี Productive เพิ่มมากขึ้น
- การยืนทำงานไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนักลงได้ แต่การเดินต่างหากที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้มากกว่า
- หากอยากแก้อาการปวดหลัง ปวดคอ จงพยายามนั่งทำงานให้น้อยลงประมาณ 1 ชั่วโมงต่อวัน
- เราสามารถยืนทำงานได้ แต่ไม่จำเป็นต้องยืนทำงานตลอดทั้งวัน วิธีการที่ดีที่สุด คือ ควรยืนสลับกับการนั่งทำงาน
แม้ว่าการยืนทำงานจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่จำเป็นต้องยืนทำงานอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าหากเกิดความเมื่อยล้า หรือรู้สึกไม่สบาย ก็ควรสลับไปนั่งทำงานบ้างตามความต้องการ ด้วยความปรารถนาดีจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร DURO สูตรใหม่ 2 พลัง ช่วยบำรุงสุขภาพ และภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ขออยู่เคียงข้าง และเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างพลังกายพลังใจในการทำงานให้กับทุกคน เพราะเราเชื่อเสมอว่า การมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ย่อมส่งผลดีโดยตรงต่อ Productivity ไม่ว่าคุณจะนั่ง หรือยืนทำงานก็ตาม
ข้อมูลอ้างอิง
- บทความเรื่อง “ทำไม การยืนทำงาน ช่วยให้เรา Productive ขึ้นได้ https://bit.ly/3sHvMWZ
- บทความเรื่อง “5 ข้อดีของการยืนทำงาน” https://bit.ly/3MpzHQ3
- บทความเรื่อง “ความจริงเกี่ยวกับการ ‘ยืนทำงาน’ ยืนทำงานหรือนั่งทำงานดีกว่ากัน? ผลวิจัยบอกว่าให้ทำทั้งคู่ผสมกันจะดีที่สุด” https://bit.ly/3sJ1aV7
- บทความเรื่อง “เพิ่ม Productivity ในการทำงานให้สูงขึ้นง่าย ๆ ด้วยกิจวัตรประจำวันเหล่านี้” https://bit.ly/35pFaGh