5 แนวคิด พิชิตความรวย ฉบับคนทำงาน
การเป็นเศรษฐีมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขาดมือ คงเป็นเรื่องที่ใครหลายคนใฝ่ฝันถึง แต่ถ้าหากมัวแต่คิดฝันไปวันๆ ไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง มโนไปเรื่อยเปื่อย!!! มันก็คงจะไม่มีทางเป็นจริงได้สักที เพราะการที่จะประสบความสำเร็จในอะไรสักอย่างได้นั้น อย่างน้อยๆ ก็ต้องเริ่มต้นด้วย “การลงมือทำ” เรามาดูกันครับว่า ถ้าหากอยากเป็นเศรษฐี..จะเริ่มต้นกันอย่างไร?
- ควรมี “วินัย” กับทุกเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง “การเงิน”
เคยสังเกตกันบ้างหรือไม่? คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ มักจะเป็นคนที่มีวินัยในการทำสิ่งต่างๆ “ความมีวินัย” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่มนุษย์ทุกคนควรจะต้องมี!!! โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง “การเงิน” เพราะคงไม่มีใครที่จะสามารถทำงานหนักเพื่อหาเงินไปได้ตลอดทั้งชีวิต เราจึงควรวางแผนเรื่องการออม และการลงทุนไว้บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคเศรษฐกิจปัจจุบันที่การออมเงินแต่เพียงอย่างเดียว อาจไม่พอ และไม่ทำให้รวยขึ้นได้ ดังนั้น เราควรใช้เงินออมที่มีเพื่อการลงทุนไว้บ้าง ซึ่งวิธีในการลงทุนนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น การลงทุนในหุ้น กองทุนรวม ทองคำ รวมไปถึงการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ที่สำคัญ!!! ควรศึกษาวิธีการลงทุนให้เข้าใจอย่างละเอียด และลงมือทำทันที เพราะยิ่งเริ่มต้นเร็ว…ก็จะยิ่งมีเวลามากกว่าคนอื่น
- จัดสรรงบประมาณในแต่ละเดือนให้เป็นสัดส่วนอย่าง “ชัดเจน”
การที่เราหาเงินได้มาก หรือหลากหลายช่องทาง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และมันจะดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าหากว่าเราสามารถบริหารจัดการเงินได้อย่างเป็นระบบ และเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน ซึ่งสูตรบริหารการเงินที่ได้รับความนิยม คือ “50-30-20” โดยแบ่งออกเป็นส่วนๆ ได้ดังนี้ “ค่าใช้จ่ายประจำวัน (50%) – ค่าใช้จ่ายส่วนตัว(30%) – เงินสำหรับการเก็บออม(20%)” ซึ่งหากเราสามารถบริหารงบให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และควบคุมค่าใช้จ่ายๆ ของตัวเองได้ ก็จะทำให้รู้ว่าเราเสียเงินไปกับอะไรเยอะที่สุด เพื่อหาทางอุดรอยรั่วในส่วนนั้น..หนทางสู่ความมั่งคั่งก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
- “อย่าสร้างหนี้” ที่ไม่เกิดประโยชน์
ตัวอย่างเช่น หนี้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด เป็นแหล่งเงินทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าหากเรามีหนี้สินที่เกิดจากแหล่งเงินทุนในส่วนนี้ ก็ควรรีบหาทางเคลียร์ให้จบโดยเร็ว และยิ่งหากนำบัตรเครดิตไปใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย หรือเอาไปลงทุนต่อยอด เพื่อหวังกำไรก้อนโตกลับมาด้วยแล้ว นี่อาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมเท่าไหร่นัก เพราะต้องไม่ลืมว่าการลงทุนในทุกๆ อย่างนั้นมีความเสี่ยง หากลงทุนไปแล้วเกิดการขาดทุน เราจะยิ่งแย่ไปกว่าเดิม ดังนั้น ควรใช้จ่ายเท่าที่มี…ลงทุนเท่าที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนจะเป็นการดีที่สุดครับ
- “ศึกษา-หาความรู้” แล้ว “ลงมือ-ลงทุน”
ในเรื่องของการลงทุน “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน” ไม่ใช่ประโยคที่ฟังดูเกินจริง เพราะการจะลงทุนอะไรก็ตาม..เราควรศึกษาหาข้อมูลให้มากพอ และต้องถามตัวเองให้ดีว่า เราจะลงทุนไปเพื่ออะไร? กำลังลงทุนกับอะไรอยู่? และรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน? เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะรับความเสี่ยงได้ในระดับเดียวกัน ดังนั้น ควรถามตัวเองให้ดีเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยเริ่มลงทุน ซึ่งถ้าหากยังไม่มีความรู้ที่มากพอ ก็ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมัยนี้ด้วยแล้ว มีช่องทางการศึกษาหาความรู้ในเรื่องของการลงทุนมากมายให้ได้เลือกศึกษากันได้ตามความพอใจ เพียงแต่อาจต้องมีสติกันให้มากสักหน่อย และไม่หลงเชื่อไปกับคำชักชวนให้ลงทุนในสิ่งที่ผิดกฎหมาย หรือการให้ผลตอบแทนที่ดีเกินจริง อย่างเช่น แชร์ลูกโซ่เป็นอันขาด!!!
- การลงทุนที่ดีที่สุด คือ “การลงทุนกับตัวเอง”
ถือเป็นการลงทุนที่ไม่ควรมองข้าม และควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้!!! ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยเริ่มต้นทำงาน หรือวัยใกล้เกษียณ ก็ล้วนแต่ต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนกับตัวเองควบคู่ไปกับการลงทุนด้านอื่นๆ การลงทุนกับตัวเองทำได้ง่ายๆ ด้วยการหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ทำจิตใจให้เบิกบาน และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฯลฯ เพราะคงไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าทุกการลงทุนที่ได้ทุ่มเททำลงไป ผลิดอกออกผลในวันที่เราล้มป่วยจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แบบนั้นก็เท่ากับว่า เราขยันหาเงินแทบตาย เพื่อเอามาใช้รักษาตัวกันดีๆ นี่เอง
เรื่องสุขภาพก็เช่นกัน!!! อย่ารอจนสายเกินแก้ เริ่มต้นดูแลกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะต่อให้ “มีเงินทองเป็นกอง...แต่สุขภาพไม่แข็ง” มันก็คงไม่ไหวเหมือนกันนะครับ
ข้อมูลอ้างอิง
- บทความเรื่อง “5 วิธีวางแผนการเงิน สู่การเป็นเศรษฐีก่อนอายุ 30” จาก เพจ aomMONEY
- บทความเรื่อง “สูตรเก็บเงินฉบับมนุษย์เงินเดือน” https://bit.ly/3hKm8fW
