โลกพร้อม ประเทศไทยพร้อมหรือยัง กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ?
โลกกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle – EV” ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจน แถมยังเป็นการเปลี่ยนแปลงติดอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ ซึ่งหลายคนคงได้มีโอกาสใช้รถยนต์แบบไฮบริด (รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้น้ำมันร่วมกับการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า) กันมาบ้างแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่ใช่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบ 100 % ซึ่งการที่จะให้คนไทยหันไปใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันเยอะๆ นั้น อาจเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากอยู่สักหน่อย ว่าแต่จะด้วยเหตุผลใด? เรามาดูไปพร้อมๆ กันครับ
1. เรื่องของการชาร์จไฟที่บ้าน
การใช้รถยนต์ไฟฟ้า..ใช่ว่าจะเสียบปลั๊กแล้วชาร์จเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วๆ ไป เรายังต้องมีความพร้อมในด้านการติดตั้งหัวชาร์จที่บ้าน รวมถึงการติดตั้งระบบไฟฟ้า เพื่อรองรับการชาร์จไฟที่จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจากผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน โดยหม้อแปลงที่บ้านนั้นอาจจะต้องมีขนาดตั้งแต่ 15(45) A ขึ้นไป โดยการชาร์จไฟฟ้านั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ ดังนี้
- การชาร์จแบบเร็ว (Quick Charger) มักใช้ตามสถานีชาร์จ จ่ายไฟกระแสตรง ใช้เวลาประมาณ 0.5 – 1 ชั่วโมง จากแบตเตอรี่ 0 – 80% ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถยนต์
- การชาร์จธรรมดา แบบ Double Speed Charge มักติดตั้งตามบ้านหรือห้าง จ่ายไฟเป็นกระแสสลับ ใช้เวลาประมาณ 4 – 7 ชั่วโมง ขึ้นกับรุ่นของรถยนต์ และกำลังของเครื่องชาร์จ (Wall box)
- การชาร์จธรรมดา แบบ Normal Charge มักติดตั้งตามบ้าน ใช้เวลาประมาณ 12 – 15 ชั่วโมงถึงจะชาร์จเต็ม ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถยนต์
2. เรื่องของความพร้อมของสถานีชาร์จไฟตามจุดต่าง ๆ
ปัจจุบันยังถือว่ามีน้อยมากๆ อาจจะด้วยปัจจัยด้านราคาของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ยังมีราคาสูงอยู่ ทำให้ยังไม่ได้รับความนิยมกันสักเท่าไรนัก หากแต่ในอนาคตเมื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีราคาถูกลงจนเอื้อมแตะไหว แนวโน้มที่จะมีสถานีชาร์จไฟคงจะมีเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้เริ่มมีสถานีชาร์จทั้งที่เป็นของการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปั๊มน้ำมัน ปตท. และปั๊มน้ำมันบางจาก อย่างล่าสุด BMW และ Mercedes-Benz ก็ได้ร่วมมือกับเอกชนรายต่างๆ ในการติดตั้งสถานีชาร์จด้วยเช่นกัน
3. เรื่องของการผลิตพลังงานไฟฟ้า
เมื่อคนหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น แน่นอนว่าการผลิตกระแสไฟฟ้าก็ต้องสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอาจทำให้แรงดันไฟฟ้าตก หรือโหลดเกินกว่าความถี่ของไฟฟ้าที่จ่ายเปลี่ยนแปลง ทำให้ผู้ผลิต หรือสถานีส่งไฟฟ้าต้องเตรียมตัวลงทุนแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงรัฐบาลเองก็ต้องมีการพัฒนาระบบ และบริหารการใช้ไฟฟ้าในอนาคตด้วยเช่นกัน
สุดท้ายนี้ เราคงหนีไม่พ้นกับการต้องเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่ได้ ในเมื่อนโยบายของทั่วโลกประกาศชัดเจนในการเดินหน้าไปสู่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่ออนาคตของโลกที่ยั่งยืนขึ้น ถึงแม้ว่าการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยยังมีข้อจำกัดอยู่ในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องของราคา สถานีชาร์จ ระยะเวลาในการชาร์จ รวมไปถึงเรื่องของพลังงานไฟฟ้าที่ต้องรองรับ แต่ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน ข้อจำกัดต่างๆ เหล่านี้อาจจะค่อยๆ หายไป เพราะหลายแบรนด์ก็ได้เริ่มมีการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้น ด้วยแนวคิดที่ต้องการเปลี่ยนโลกให้น่าอยู่มากขึ้น ไม่แน่!!! ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นทุกที่ในประเทศไทยเต็มไปด้วยสถานีชาร์จไฟ ผู้คนขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันเต็มบ้านเต็มเมือง..ก็เป็นไปได้นะครับ
ข้อมูลอ้างอิง
- บทความเรื่อง “รถยนต์ไฟฟ้า..เทรนด์เทคโนโลยีใหม่ที่กำลังมาเยือนในอนาคต”
